“ม่าน” เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าสิ่งอื่นใด เพราะ “ม่าน” นอกจากจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ผ้าม่านช่วยกันแดดกันร้อนแล้วนั้น “ม่าน” เป็นองค์ประกอบที่จะช่วยเสริมภาพลักษณะของพื้นที่นั้นให้สวยมากขึ้น ดูน่าอยู่ ดูมีบรรยากาศที่ดีและส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับบ้านอีกด้วย หากบ้านมีการออกแบบที่ดีแล้ว แต่ขาดม่านที่เหมาะสมก็ทำให้บ้านนั้นดูด้อยมูลค่ากว่าที่ควรจะเป็นได้

ผ้าม่านและม่าน มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ ม่านแต่ละแบบก็ทำให้ลุคออกกมาต่างกัน แม้จะเป็นห้องแบบเดียวกัน แล้วม่านแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร มาทำความรู้จักกันค่ะ

ผ้าม่านจีบ (Pleat Curtains) น่าจะเป็นม่านทุกเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากใช้งานง่าย เปิดปิดม่านได้คล่องมือ รูปแบบม่านจีบเข้าได้กับหลายสไตล์
ผ้าม่านจีบ-pleated-curtains

ทำได้ทั้งม่านแบบ 1 ชั้น หรือ ม่านแบบ 2 ชั้น คือผ้าม่านทึบและผ้าม่านโปร่ง ซึ่งจะนิยมใช้เป็นแบบรางมือปัด หรือ แบบรางโชว์ 

ซึ่งม่านจีบ จุดเด่นคือ หัวม่านจะมีการจับจีบเพื่อบังคับม่านให้เป็นลอน จึงเป็นที่มา “ผ้าม่านจีบ”

ผ้าม่านจีบ
 
ผ้าม่านลอน( Wave Curtains) ม่านลอนที่เป็นที่นิยมกันมากขึ้น เนื่องจากกระแสการตกแต่งแบบ minimal ทำให้ม่านที่ไม่มีจีบด้านบนเป็นที่สนใจมากขึ้น

ม่านลอนเทป s-curve curtain

จึงได้ลุคม่านที่ดูเรียบ แต่ยังทิ้งตัวเป็นลอนสวยมากขึ่น (จะดูเรียบกว่าม่านตาไก่) ซึ่งจุดเด่นของม่านลอนก็คือ การขึ้นเป็นลอนโดยไม่ใช้การจับจีบ แต่จะเป็นตัวเทปม่านลอนแทน

และเนื่องจากผ้าม่านลอนจะกินพื้นที่เยอะกว่า ทำให้บางหน้างานจะประยุกต์ใช้ม่านลอนเป็นผ้าทึบ และ ม่านจีบเป็นผ้าโปร่ เพื่อลดระยะของตัวม่านลง

ผ้าม่านลอน

ม่านตาไก่ ( Eyelet Curtains) ม่านที่ให้ลุคสบายๆ และม่านเป็นลอนโดยใช้ห่วงตอกเข้าไปกับตัวผ้า และต้องใช้คู่กับรางโชว์เท่านั้น

ม่านตาไก่

ผ้าม่านพับ (Roman Blinds) ม่านที่เหมาะสำหรับช่องแสงในจุดที่มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง โดยมีจุดเด่นคือการพับขึ้นไปเก็บด้านบนเป็นชั้นๆ

ม่านพับ

มู่ลี่ไม้ (Wooden Blinds) จะเหมาะกับช่องแสงที่ไม่มีการเปิดปิดบ่อย เน้นเป็นการปรับใบเพื่อควบคุมปริมาณแสงมากกว่า จะให้ลุคสวยแตกต่างจากม่านผ้า

มีทั้งแบบไม้ธรรมชาติซึ่งจะทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและเป็นวัสดุจากธรรมชาติ และมู่ลี่ไม้ จะมีแบบวัสดุสังเคราะห์ที่สามารถใช้กับทีชื้นได้ (แต่ไม่ถึงกับโดนน้ำโดยตรง)

มู่ลี่ไม้

มู่ลี่อลูมิเนียม (Venetian Aluminum Blinds)​ ม่านที่มักจะเห็นในออฟฟิสสำนักงาน โดยวัสดุจะเป็นใบอลูมิเนียม สามารถปรับใบเพื่อควบคุมปริมาณแสง นิยมใช้ขนาดใบ 25 มม.

มีความทนทาน (แต่ต้องระวังไม่ไปหักใบมู่ลี่) ซึ่งนอกจากสำนักงานแล้ว ก็ยังสามารถติดตั้งในบ้านได้ และมู่ลี่อลูมิเนียมสามารถใช้ติดในส่วนครัว หรือ ห้องน้ำที่เป็นโซนแห้ง

เนื่องจากเป็นม่านที่ใช้พื้นที่ติดตั้งไม่เยอะ ราคาเข้าถึงง่ายกว่ามู่ลี่ไม้ และยังดูและทำความสะอาดได้ง่ายด้วย

 

ซึ่งตัวมู่ลี่อลูมิเนียมสามารถสั่งเป็นแบบเทปผ้าได้เช่นกัน ก็จะได้มู่ลี่แบบใบอลูมิเนียมที่มีความสวยหรูมากกว่าแบบปกติ

มู่ลี่อลูมิเนียม

ม่านม้วน( Roller Blinds) ม่านสไตล์โมเดิรน์ ให้ความเรียบ เหมาะกับบ้านที่อยากได้ม่านที่ไม่ค่อยมีฝุ่น

จุดเด่นของม่านม้วนคือจะเป็นผืนเดียวและสามารถม้วนเก็บขึ้นด้านบนได้ทั้งหมด ทำให้ไม่เกะกะสายตาเวลาม้วนเก็บ

ม่านม้วนจะมี 3 แบบคือ ม่านม้วนblackout ม่านม้วนsunscreen และ ม่านม้วนDimout

ม่านม้วน